เลือก Linux Server อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

Linux_Family-590x590การเลือกใช้ Linux Server ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ ขึ้นอยู่กับลินุกซ์เซิร์ฟเวอร์นั้นๆสามารถตอบสนองความต้องการของ Staff ของคุณได้หรือไม่

Linux Server อาจจะมีเป็นโหล แต่ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เลือก Linux ที่เหมาะสมสำหรับองค์กรของคุณ กว่า 20 ปีของประสบการณ์การใช้ Linux ผมรู้ 1 หรือ 2 สิ่งเกี่ยวกับ Linux Server

ผมคิดว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวในการเลือก Linux Server คือ เจ้าหน้าที่ไอทีของคุณ มี?ประสบการณ์ (หรือไม่มี) เกี่ยวกับ Linux

ขณะที่ความรู้ด้าน Linux ค้นหาได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคยเป็นมา แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้าน IT Linux ไม่มากนัก

เมื่อฉันไป?OSCon ที่ประชุมโอเพนซอร์สที่สำคัญปีก่อนในพอร์ตแลนด์? ทุกคนและฉันตรวจสอบ ซึ่งจริงๆมันก็คือทุกคน (แม้กระทั่ง บริษัท ชื่อ ไมโครซอฟท์) ก็มองหาที่จะจ้างคนที่มีประสบการณ์ Linux และโอเพนซอร์ส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายจ้างที่มีปัญหาในการหาทีมงานซึ่งมีประสบการณ์ด้าน Linux น้อย ภายใต้งบประมาณที่จำกัดของพวกเขา กล่าวคือ ว่าที่พนักงาน จะต้องสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์ให้ทำงานได้ตามเป้าหมาย
นั่นหมายถึงว่าถ้าคุณยังไม่มี Staff ที่มีความประสบการณ์เจนจัดในเรื่อง Linux คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ Linux Server โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Debian ซึ่งไม่มีผู้ผลิตที่จะทำการฝึกอบรมและการสนับสนุน

โปรดอย่าเข้าใจผมผิด ที่ห้ามใช้ Debian? Debian ดีมากหากพนักงานของคุณมีประสบการณ์ แต่ถ้าคนของคุณไม่สามารถสื่อสารกับ BASH โดย C Shell ได้ คุณไม่ควรให้พวกเขาใช้ Debian

ถ้าคุณยังใหม่กับ Linux ขอแนะนำ Linux แบบ Commercial อย่างเช่น Red Hat Enterprise Linux (RHEL).
Red Hat ไม่ได้เป็นบริษัท Linux พันล้านดอลลาร์ โดยไม่สนับสนุนด้านธุรกิจมากไปกว่า Linux ตัวอื่นๆ ซึ่ง RHEL มีเครื่องมือทั้งหมดที่จะสนับสนุนองค์กรของคุณ เช่น ?professional certification, hardware certification และ ระบบ Update อัตโนมัติด้วย? Red Hat Network (RHN) นั่นจะทำให้ CFOs และ CIOs มีความสุขแน่ๆ

Red Hat เองก็มีคู่แข่งที่ร้ายกาจอยู่ คือ? SUSE Linux Server องค์กร (SLES) ซึ่งเหมือนกับ RHEL SLES? สนับสนุน staff certification, Novell,hardware certification และ online updating

แล้วคุณจะเลือกได้อย่างไร? คุณก็ลองทดสอบมันทั้ง 2 เลย เพราะมันฟรีและง่ายที่จะทดสอบ ส่วนตัวผมใช้ทั้ง RHEL และ SLES? สำหรับผมแล้วมันจะลงตัวพอดีกับความต้องในทางธุรกิจของผม ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานในสถานการณ์นั้นๆ

ส่วนตัวเลือกอื่นๆของ Enterprise Linux : Oracle Linux นั้นอาจจะกล่าวได้ว่า copy RHEL มาทั้งหมด ทำการตกแต่งแล้วติดป้ายขายในชื่อ Oracle

แล้วถ้าคุณเป็นมีความรู้ระดับกลาง ไม่เชี่ยวชาญ Linux มากนักจะทำยังไง ?
มีหลายคำแนะนำสำหรับคุณ
อันดับแรก สำหรับคนที่ชอบ RHEL ขอแนะนำ CentOS ซึ่ง clone มาจาก RHEL เลยทีเดียว
CentOS ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถ้าคุณใช้ Apache Web server เว็บไซท์ของคุณจะสามารถทำงานได้ดีภายใต้ CentOS นอกจากนี้ CentOS ยังมี source free ที่ออกมาสนับสนุนจำนวนมาก

หากคุณกังวลว่า RedHat จะมาดึง CentOS ไป ไม่ต้องกลัวครับ! RedHat ไม่ค่อยชอบ Oracle Linux นัก โดย CEO ของ RedHat James Whitehurst ได้เคยกล่าวไว้ว่า “CentOS ใช้ระบบเดียวกับ RHEL ซึ่งมันช่วยให้ RHEL แพร่หลาย และเราไม่อาจจะบังคับทุกคนให้จ่ายเงินเพื่อใช้ Linux. ดังนั้นแม้เราจะสูญเสียรายได้บางส่วน แต่ในทางกลับกัน CentOS มีบทบาทอย่างมากในการช่วยให้ คนที่ใช้ Linux คิดถึง RedHat ”

อีกทางเลือกหนึ่งของคนที่รู้ Linux บ้างแต่ไม่มาก คือ openSUSE? openSUSE ถูกแจกจ่ายโดย SUSE’s community Linux แต่ไม่มี support bells และ whistles of SLES ซึ่งมีเสถียรภาพและใช้งานง่าย

ผมไม่แนะนำ น้องชายคนเล็กของ?RHEL’s community คือ Fedora แม้ Fedora จะเหมาะกับนักพัฒนา Linux ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด แต่มันไม่เหมาะสมกัยคนที่ต้องการ Server ที่มีเสถียรภาพ

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนทีรู้ Linux ปานกลาง คือ Canonical’s Ubuntu ซึ่งขณะนี้ Ubuntu มีชื่อเสียงอย่างมากในกลุ่ม Desktop ,Tablets และ Smartphones และยังมีการนำเสนอบน Server อีกด้วย คือ Ubuntu Server

ก็เหมือน RHEL และ SLES Ubuntu ยังมีการสนับสนุนและการรับรอง แต่ไม่ได้ลึกเท่าที่ Red Hat และทรัพยากรของ SUSE แต่ Ubuntu ง่ายไม่ซับซ้อนในการใช้งานเป็น Server

หากคุณต้องการใช้?cloud Ubuntu ได้รวม?OpenStack เข้าไว้ด้วย
Canonical บริษัทแม่ของ Ubuntu ได้นำ Juju และ DevOps (Developer/Operations) ทำให้มันง่ายในการ ติดตั้ง ,configure, จัดการ, ซ่อมบำรุง, deploy และ ขยายบริการ ของ Server ได้

ในขณะที่เรากำลังพูดถึงคลาวด์ คุณควรพิจารณาว่าคุณต้องการใช้งานอะไรบน Linux Server ในสำนักงานหรือศูนย์ข้อมูลของคุณ มันค่อนข้างเป็นไปได้ว่าคุณสามารถเรียกใช้บริการคลาวน์ที่คุณต้องการบนเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์

โดยส่วนมาก คลาวด์ เช่น Amazon Web Services (AWS), Azure และ RackSpace ส่วนมาก run บน Linux Server ซึ่งจะต้องมีการ config อย่างมากเพื่อบริการคุณ
ยกตัวอย่างเช่น Amazon Elastic Cloud (AE2), Amazon ต้องการให้ Amazon Machine Images (AMIs) สามารถทำงานได้บน Linux ทุกตระกูล
เชื่อหรือไม่ Microsoft’s Azure? supports CentOS, openSUSE, SUSE, and Ubuntu ด้วย
สุดท้าย RackSpace, OpenStack ก็สามารถทำงานได้อย่างดีบน Linux ทุกตระกูล ทั้งระบบเล็กและระบบใหญ่Arch และ Gentoo ทำงานได้บน Debian ,ผมแนะนำเฉพาะคนที่มีความรู้ Linux เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับงานที่มีความสำคัญมากๆ

หากคุณต้องการ Linux Server ที่ทำงานบน Cloud ได้อย่างดีเยี่ยม ขอแนะนำ Turnkey Linux

Turnkey Linux สร้างบน? Debian 64-bit แต่ใช้ความชำนาญด้าน Linux เพียงเล็กน้อย นั่นเพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้กระจายข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ
Turnkey Linux มี Application ที่พร้อมใช้งานมากกว่า 100 Apps เช่น Apache Web service,MySQL,PHP/Python/Perl,WordPress,Drupal,Zurmo

สรุปสั้นๆ คือ ไม่ว่าคุณจะมีความรู้เรื่อง Linux หรือ ไม่ ทั้งหมดนี้คือ Linux Server ที่คุณและธุรกิจของคุณต้องการ

สรุปท้ายเรื่อง

Linux server สำหรับมือใหม่


- RHEL
- SUSE
- Oracle Linux
- Turnkey Linux

Linux server สำหรับความรู้ Linux ปานกลาง


- CentOS
- openSUSE
- Ubuntu Server

Linux server สำหรับความรู้ Linux Expert


- Arch
- Gentoo
- Debian
- Fedora

ที่มา 😕 http://www.itworld.com/operating-systems/372236/how-choose-best-linux-server-your-business

————————————————————————————————-
แปลเขามานะ 555+ อาจแปลผิดๆเถิกๆหน่อยนะ

Posted in บทความพิเศษ | 1 Comment

Linux Kernel 3.10.12 พร้อม Download แล้ว

Greg Kroah-Hartman ประกาศเมื่อวันที่? 14 กันยายน 2556 ว่า Linux kernel Version 3.10.12 พร้อมให้ Download แล้ว

Linux Kernel?3.10.12 ได้ทำการแก้ไขเกี่ยวกับระบบ Network โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ IPv4 และ IPv6 โปรโตคอล และเป็นการปรับปรุง Driver หรือ patched ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Network เป็นส่วนใหญ่
โดยคุณสามารถ Download โดย git ได้ที่ 😕 git://git.kernel.org/pub/scm/linux/kernel/git/stable/linux-stable.git
และ Browser ได้ที่ : http://git.kernel.org/cgit/linux/kernel/git/stable/linux-stable.git

ที่มา : http://news.softpedia.com/news/Linux-Kernel-3-10-12-Is-Now-Available-for-Download-383120.shtml

Posted in ข่าวสาร | Tagged , | Leave a comment

การจัดการ Package บน Debian โดยใช้ aptitude

การจัดการ Package หรือ Application (ต่อไปนี้เรียก Package) ของ Debian คือ dpkg, apt-get,apt-cache และเครื่องมือต่างๆ คล้าย aptitude ทำให้เราสามารถติดตั้งโปรแกรมและจัดการโปรแกรมได้ง่ายมาก เมื่อคุณต้องการที่จะทำสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้นและมันยังคงง่ายต่อการติดตั้ง แต่ Option หรือ เครื่องมือที่คุณต้องการติดตั้งอาจไม่ดีเท่าที่คุณต้องการ

สิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์ คือ จะต้องรู้ว่าทำไมจึงต้องติดตั้ง Package นั้นๆก่อนจะทำการติดตั้ง
ในการค้นหา Package นั้นเราอาจใช้ เครื่องมือ ชือ aptitude ซึ่งจะทำให้เรา ค้นหา และติดตั้ง Package ได้ง่ายมากๆ
และตัว aptitude นี้จะช่วยค้นหาและติดตั้ง Package อื่นๆที่ Package ที่คุณต้องการติดตั้งต้องการด้วย

สำหรับการ upgrade Package ปกติเรามักได้รับคำแนะนำให้ใช้คำสั่ง dist-upgrade แต่บาง Package เราไม่ต้องการ upgrade
เราจึงควรใช้ความสามารถของ apt-get ในการ upgrade แทนเพราะจะสามารถระบุ Package ที่ต้องการ upgrade โดยไม่กระทบ Package อื่นๆ

ข้อมูลการใช้งาน Aptitude : http://www.linuxplanet.com/tutorials/debian-package-management-made-easy.html

ที่มา : http://www.linuxplanet.com/tutorials/debian-package-management-made-easy.html

Posted in บทความพิเศษ | Tagged , , | Leave a comment

อยากใช้ Firefox ของจริงบน Debian ทำไง?

firefox-512-noshadowก่อนอื่นต้องบอกว่า Firefox ที่ถูกติดตั้งบน Debian ชื่อ Iceweasel ซึ่งคุณเองอาจชอบก็ได้ ให้ลองเล่นดูครับ
แต่สำหรับผมชอบ Logo Firefox มากกว่า จึงหาวิธีติดตั้ง Firefox ซึ่งอันนี้ได้ผล

สำหรับ Debian 32 Bits สามารถ Download ได้ที่
http://ftp.mozilla.org/pub/mozilla.org/mozilla.org/firefox/releases/latest/linux-i686/th/

สำหรับ Debian 64 Bits สามาถ Download ได้ที่ http://ftp.mozilla.org/pub/mozilla.org/mozilla.org/firefox/releases/latest/linux-x86_64/th/

วิธีการติดตั้ง
1) Copy ไฟล์ที่ Download มาแล้วไปวางไว้ที่ /opt
2) ทำการแตกไฟล์ โดยใช้คำสั่ง
$ tar -jxvf firefox*.tar.bz2
ลบตัวที่ Download มาทิ้งซะ
$ rm firefox-*.tar.bz2
3) Backup ตัวเรียก firefox เก่าที่อยู่บนเครื่อง
$ mv /usr/bin/firefox /usr/bin/firefox.backup
4) สร้างตัวเรียก Firefox ตัวใหม่
$ ln -s /opt/firefox/firefox /usr/bin/firefox
5) สร้าง Startup
$ ln -s /opt/firefox/icons/mozicon128.png /usr/share/icons/hicolor/128x128/apps/firefox.png & sudo ln -s /opt/firefox/icons/mozicon128.png /usr/share/pixmaps/firefox.png
*หมายเหตุ ตรวจเช็กดูว่ามีไฟล์ mozicon128.png มั๊ย ถ้าไม่มี Download มาใส่ครับ
6) สร้างไฟล์ firefox.desktop
$ gksu gedit /usr/share/applications/firefox.desktop
และ Copy คำสั่งต่อไปนี้ไปใส่

[Desktop Entry]
Encoding=UTF-8
Name=Firefox
Comment=Browse the World Wide Web
GenericName=Web Browser
X-GNOME-FullName=Firefox Web Browser
Exec=/opt/firefox/firefox %u
Terminal=false
X-MultipleArgs=false
Type=Application
Icon=firefox
Categories=Network;WebBrowser;
MimeType=text/html;text/xml;application/xhtml+xml;application/xml;application/vnd.mozilla.xul+xml;application/rss+xml;application/rdf+xml;image/gif;image/jpeg;image/png;x-scheme-handler/http;x-scheme-handler/https;
StartupWMClass=Firefox-bin
StartupNotify=true

กด บันทึก และปิดหน้าต่างครับ เป็นอันว่าเสร็จพิธี

Posted in การติดตั้ง | Leave a comment

วิธีการใส่ Font ของ Windows ใน Debian

มีหลายๆงานที่เราต้องใช้งานร่วมกับเพื่อนเราที่ใช้ Microsoft Office ของ Windows เช่นพวก Word, Power Point
ซึ่งฟอนต์เราก็ไม่มีเหมือนเขา เอามาวางเพื่อใช้ต่อมันก็เป็น สี่เหลี่ยม เต็มไปหมด ดังนั้นเราก็ต้องเอา Font ใน Window มาลงใน Debian ของเรา

ขั้นแรกเลยนะครับ
1. เข้า Terminal แบบ Root
2. apt-get install ttf-mscorefonts-installer
3. cd /usr/share/fonts/truetype/msttcorefonts
4. copy file นามสกุล .ttf เข้าไปใน Folder /usr/share/fonts/truetype/msttcorefonts
ในที่นี้ใช้คำสั่ง cp /media/hda1/windows/Fonts/*.ttf
5. chown root.root *.ttf
6. chmod 644 *.ttf
7. mkfontdir
8. fc-cache

แค่นี้เราก็ใช้ได้แล้วครับ ทีนี้เราก็สามารถเปิดไฟล์ Word ,Power Point ของเพื่อเราได้แล้วครับ

Posted in การติดตั้ง | Leave a comment

มา Compile และติดตั้ง Linux Kernel 3.0 บน Debian/Ubuntu เพื่อให้เครื่องเสถียรกันเถอะ

คือเดิมผมมีเครื่องคอมพิวเตอร์ Pentium 4? ความเร็ว 2.4 GHz RAM 2 GB ความเร็ว Bus 266 MHz แบบที่ว่าผ่าน RAM ช๊อต ผ่าน Blue Screen มาแล้วอย่างโชกโชน ก็เลยเอา Linux มาลง โดยลง Debian 6 นี่แหละ ลงแล้วรู้สึกว่าเร็วดี แต่มีคนแนะนำมาว่าควร Compile Kernel นะ โดยวิธีการนี้ใช้ได้ทั้ง Debian และ Ubuntu ครับ
เริ่มกันเลย
ขั้นแรก su root ก่อนเลยครับ

ต่อมา ติดตั้ง GCC

apt-get install gcc

ติดตั้ง Ncurses Development Package

apt-get install libncurses5-dev

Update และ Upgrade ระบบ

apt-get update && apt-get upgrade

ต่อมาก็ Download Source Kernel ของ Linux ลงมา

wget http://www.kernel.org/pub/linux/kernel/v3.0/linux-3.0.tar.bz2

เข้าไปใน Folder ที่เก็บ Source Kernel ของ Linux

cd Downloads/

แตกไฟล์ ไปที่ /usr/src/

tar -xvf linux-3.0.tar.bz2 -C /usr/src/

เข้าไปใน Folder ที่แตกไฟล์ไว้

cd /usr/src/linux-3.0/

ขั้นตอนถัดมา

make menuconfig

หน้าจอจะแสดงดังนี้
menuconfig-ubuntu11.04
ให้เลือก Exit เลย หากคุณ Config เป็น ก็เข้าไป config

ขั้นตอนถัดมา

make oldconfig

และ

make

ขั้นตอนนี้รอประมาณ 40-50 นาที หรือมากกว่านั้นครับ
เมื่อ Compile เสร็จ ให้ พิมพ์คำสั่งนี้เข้าไป

make modules_install install

ลองตรวจสอบใน Folder /boot/ ดูครับว่ามีไฟล์เหล่านี้อยู่หรือไม่

  • System.map-3.0.0
  • vmlinuz-3.0.0
  • initrd.img-3.0.0
  • config-3.0.0

ถ้าไม่มีไฟล์ initrd.img-3.0.0 ให้พิมพ์คำสั่งนี้เข้าไป

update-initramfs -u -k 3.0.0

และ update kernel โดยพิมพ์คำสั่ง

update-initramfs -c -k 3.0.0

Update Grub โดยพิมพ์คำสั่ง

update-grub

และ Reboot เครื่องเลยครับ

ขอให้สนุกกับการใช้งาน Debian นะครับ

Posted in การติดตั้ง | Leave a comment

มาติดตั้้ง Printer Canon Pixma IP2770 กัน

PIXMA-iP2770-Front

วันนี้ผมกำลังติดตั้ง Printer โดยที่บ้านซื้อ Canon Pixma IP2770 มาก็เลย Search? ใน Google โชคดีที่มี Driver ดังนั้น จึง Download cnijfilter-ip2700series-3.30-1-i386-deb.tar ลงมาเก็บไว้ใน Folder Download และเข้า Terminal เพื่อทำการติดตั้งโดยใช้คำสั่งดังนี่

debian@Debian:~$ su root
Password:
root@Debian:/home/debian# apt-get install cups
root@Debian:/home/debian# cd Downloads/
root@Debian:/home/debian/Downloads# tar -xvf cnijfilter-ip2700series-3.30-1-i386-deb.tar.gz
root@Debian:/home/debian/Downloads# cd cnijfilter-ip2700series-3.30-1-i386-deb
root@Debian:/home/debian/Downloads/cnijfilter-ip2700series-3.30-1-i386-deb# ./install.sh

กด Enter ผ่านตลอดจนติดตั้งเสร็จ หลังจากนั้นก็หาอะไรมา Print ดูครับขอให้สนุกกับการใช้งาน Debian นะครับ
ปล.Download จากเว็บ http://www.driverlook.com/canon-pixma-ip2770-ip2772-printer-driver-linux-mac-osx/

Posted in การติดตั้ง | 4 Comments

ขั้นตอนการติดตั้ง Debian 6.0

1) Download Os Debian ได้จากเว็บไซท์ http://www.debian.org/CD/http-ftp/
2) นำ Image File มา Write ลง CD
3) นำ CD ไปใส่ใน CD-ROM/DVD-ROM โดย Set ให้ CD-ROM/DVD-ROM เป็น First Boot
4) เมื่อ Boot แล้วภาพจะแสดงดังรูปข้างล่างนี้ ให้เลือก “Graphical install
01

5) เลือก ภาษา ในที่นี้เลือก English
02

6) เลือกประเทศ โดยผมเลือกประเทศไทย โดย เลือกไปตาม Step ดังรูป
other ->Asia->Thailand
03
04
05

7) เลือกรูปแบบภาษาในที่นี้เลือก en_US UTF-8
06

8) เลือกรูปแบบแป้นภาษาอีก 1 คือภาษาไทยโดยเลือก “Thai”
07

9) เลือกรูปแบบการเปลี่ยนแป้นภาษา ในที่นี้ผมใช้ “Ctrl+Shift”
08

10) ตั้งชื่อเครื่อง
09

11) ตั้งชื่อ Domain เครื่อง
10

11) ใส่ รหัสผ่าน+ยืนยันรหัสผ่านของ Root
11

12) ใส่ชื่อเต็มของ User คนที่ 1 ที่ไม่ใช่ Root
12

13) ใส่ชื่อ User name สำหรับ Login
13

14) ใส่รหัสผ่าน + ยืนยันรหัสผ่าน ของ User
14

15) Set Partition ในที่นี้เลือก “Guided-use entire disk”
15

16) เลือก Partition และกด Continue
16

17) เลือก “All files in one partition (recommended for new users)”
17

18) เลือก “Finish partitioning and wite change to disk”
18

19) เลือก “Yes” เพื่อทำการจัดเตรียม Partition บนHarddisk
19

20) เลือก “No” เนื่องจากเราใช้แผ่นติดตั้งแผ่นเดียว
20

21) เลือก “Yes” เพื่อ Set Mirror สำหรับเวลา Install โปรแกรมในอนาคต
21

22) เลือก Thailand
22

23) เลือกอันไหนก็ได้ครับแล้วแต่ชอบ
23

24) ถ้าไม่มี Proxy ก็กด Continue ต่อไปได้เลย
24

25) กด “No” และ Continue ต่อไปเลยครับ
25

26) เมื่อถึงหน้านี้ก็เลือกตามการใช้ เนื่องจากผมใช้งานส่วนตัวก็เลือก “Graphical desktop environment” + “Standard system utilities” ถ้าคุณใช้ Laptop หรือ Notebook/Netbook ก็กดที่ Laptop เข้าไปด้วยก็ได้ครับ
26

27) เลือก “Yes” สำหรับสร้างเมนูสำหรับ? Boot kernel
27

28) เอาแผ่นออก และกด Continue เพื่อทำการ Reboot เครื่องหลังจากติดตั้ง
28

29) หน้าจอตอน Boot รอจนหมดเวลาก็ได้ หรือ จะเลือก เมนูแรกก็ได้
29

30) เข้ามาหน้าแรกของ Debian เลือก User ที่เราสร้างและ Login เลย
30

31) เข้ามาภายในของ Debian แล้วขอให้สนุกกับการใช้งาน Debian
31

Posted in การติดตั้ง | Leave a comment